เมื่อสามปีก่อน คุณณัฐ วิศวกรอายุ 29 ปี คิดว่าเขาจัดการเงินเก่งมาก
เขาหาคอนโดในย่านอโศก ราคา 4.8 ล้าน ผ่อนเดือนละ 23,000 บาท จากเงินเดือน 55,000
"แค่ 42% ของรายได้นี่" เขาคิด "ยังไงก็สบายแหละ"
ผลที่ตามมา...
เขาใช้เวลา 2 ปีเต็ม ในการเรียนรู้ว่า "ผ่อนได้" กับ "ผ่อนสบาย" มันต่างกันขนาดไหน
วิกฤติที่ไม่เคยคิด
เดือนที่ 8 หลังย้ายเข้าอยู่ คุณณัฐเริ่มรู้สึกเครียด
ไม่ใช่เพราะผ่อนไม่ไหว แต่เพราะ...
• ค่าไฟเดือนละ 3,500 (แอร์เปิดตลอด)
• ค่าส่วนกลาง 2,800 บาท
• ค่าประกันภัย 800 บาท
• ค่าซ่อมแซมต่าง ๆ เฉลี่ย 1,500 บาท
รวมกับเงินผ่อน 23,000 = 31,600 บาท
นั่นคือ 57% ของรายได้ ไปกับค่าที่อยู่อาศัยแล้ว
"ผมไม่เคยคิดว่าค่าใช้จ่ายจริง ๆ จะเยอะขนาดนี้"
ความจริงที่ผู้เชี่ยวชาญไม่เล่า
จากประสบการณ์ทำงานกับลูกค้าหลายพันคน เราพบว่า...
กฎ 30% ที่ธนาคารใช้ มันไม่ได้คำนึงถึงค่าใช้จ่ายจริงของการอยู่คอนโด
ส่วนใหญ่แล้ว ค่าใช้จ่ายรวมจะสูงกว่าเงินผ่อน 30-40%
เคสจริงของลูกค้า 3 คน:
คุณมานี (เงินเดือน 45K)
• คิดผ่อน 15K สบาย
• จ่ายจริง 21K (รวมทุกอย่าง)
• ผลลัพธ์: เครียดการเงิน ขายต้องขาดทุน
คุณเอก (เงินเดือน 80K)
• ผ่อน 28K คิดว่าโอเค
• จ่ายจริง 39K
• ผลลัพธ์: เก็บเงินไม่ได้ แต่งงานต้องเลื่อน
คุณปิ่น (เงินเดือน 35K)
• ผ่อนแค่ 8K แต่คิดมาดี
• จ่ายจริง 11K
• ผลลัพธ์: มีเงินเหลือออม ชีวิตสบาย
เห็นไหม? คนที่ผ่อนน้อย กลับมีความสุขมากกว่า
จุดเปลี่ยนของคุณณัฐ
เดือนที่ 14 แม่ป่วย ต้องใช้เงิน 80,000 บาท
คุณณัฐไม่มีเงินฉุกเฉิน เพราะรายได้ส่วนใหญ่ไปกับบ้าน
เขาต้องไปกู้ส่วนบุคคล ดอกเบี้ย 18% ต่อปี
"ตอนนั้นผมรู้ว่า การผ่อนบ้าน มันไม่ใช่แค่เรื่องของการคำนวณตัวเลข แต่มันเป็นเรื่องของการวางแผนชีวิตทั้งหมด"
เขาเริ่มหาข้อมูลเรื่องการคำนวณความสามารถจริง และพบกับระบบประเมินเครดิตออนไลน์ที่ช่วยให้เขาเข้าใจภาพรวมการเงินชัดขึ้น
การเปลี่ยนแปลง
คุณณัฐตัดสินใจขายคอนโด (ขาดทุน 200,000)
ย้ายไปอยู่คอนโดใหม่ ผ่อน 18,000 บาท ค่าใช้จ่ายรวม 24,000
เหลือเงิน 31,000 บาท ต่อเดือน เขาแบ่ง:
- • เก็บฉุกเฉิน 10,000
- • ลงทุน 8,000
- • ใช้จ่ายส่วนตัว 13,000
ปีที่สาม เขามีเงินออม 500,000 บาท
"ตอนนี้ผมนอนหลับสบายทุกคืน"
บทเรียนจากผู้เชี่ยวชาญ
จากการศึกษาข้อมูลลูกค้าและผู้เชี่ยวชาญการเงิน พบว่า:
กฎ 25% สำหรับความสบายจริง
ค่าใช้จ่ายรวมเรื่องที่อยู่อาศัย ไม่ควรเกิน 25% ของรายได้
ตัวอย่างการคำนวณ:
เงินเดือน 50,000 บาท
• งบที่อยู่อาศัยรวม: 12,500 บาท
• เงินผ่อน: ประมาณ 9,000-10,000 บาท
• ค่าใช้จ่ายอื่น: 2,500-3,500 บาท
ค่าใช้จ่ายที่คนมักลืม
1. ค่าไฟฟ้า (2,000-4,000/เดือน)
2. ค่าส่วนกลาง (1,500-3,500/เดือน)
3. ค่าประกันภัย (500-1,200/เดือน)
4. ค่าซ่อมแซม (1,000-2,000/เดือน)
5. ภาษีบ้าน (500-1,500/เดือน)
เงินฉุกเฉินสำคัญกว่าที่คิด
คนที่ผ่อนบ้าน ควรมีเงินฉุกเฉิน 6-12 เดือน ของค่าใช้จ่ายรวม
ไม่ใช่แค่ 3-6 เดือนตามปกติ
สัญญาณเตือนที่ต้องระวัง
หากคุณมีอาการเหล่านี้ แสดงว่าผ่อนหนักเกินไป:
เก็บเงินได้น้อยกว่า 10% ของรายได้
กังวลเรื่องเงินบ่อยขึ้น
เลื่อนแผนชีวิตสำคัญ (แต่งงาน, มีลูก)
ไม่กล้าลาหยุดเพราะกลัวเงินเดือนหาย
ต้องใช้บัตรเครดิตในการจ่ายค่าใช้จ่ายประจำ
ทางออกและทางเลือก
1. การรีไฟแนนซ์
ถ้าอัตราดอกเบี้ยตอนนี้ต่ำกว่าตอนซื้อ สามารถลดเงินผ่อนได้
2. การขยายระยะเวลา
เพิ่มปีผ่อนเพื่อลดภาระรายเดือน (แต่จ่ายดอกเบี้ยรวมมากขึ้น)
3. การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์
ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น เปิดแอร์น้อยลง
4. การหารายได้เสริม
เพิ่มรายได้จากงานพิเศษ เช่น ออนไลน์, ฟรีแลนซ์
ข้อแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
"อย่าเพิ่งรีบซื้อ ให้ศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อน"
การใช้เครื่องมือประเมินความสามารถทางการเงินจริง เช่นระบบประเมินเครดิตออนไลน์จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมชัดขึ้น
ไม่ใช่แค่ดูว่า "ผ่อนได้ไหม" แต่ดูว่า "ผ่อนแล้วชีวิตจะสบายไหม"
การเตรียมตัวก่อนซื้อ
สร้างเงินฉุกเฉิน ให้พอ 6-12 เดือนก่อน
ศึกษาค่าใช้จ่ายจริง ของโครงการที่สนใจ
คำนวณรายได้สุทธิ หลังหักภาษี-ประกัน
วางแผนอนาคต 5-10 ปีข้างหน้า
การซื้อบ้าน ไม่ใช่แค่การตัดสินใจครั้งเดียว แต่เป็นการผูกมัดชีวิต 20-30 ปี
สรุป: การผ่อนที่สบาย
ใช้กฎ 25%
สำหรับค่าใช้จ่ายรวมที่อยู่อาศัย
เก็บเงินฉุกเฉิน
6-12 เดือนก่อนซื้อ
ศึกษาค่าใช้จ่ายซ่อนเร้น
ที่มาพร้อมกับการอยู่คอนโด
วางแผนการเงิน
ให้ครอบคลุมอนาคต 5-10 ปี
อย่าลืมว่า บ้านคือที่อยู่เพื่อความสุข ไม่ใช่ภาระที่ทำให้เครียด
หากต้องการประเมินความสามารถทางการเงินจริง ๆ ของคุณ ลองใช้เครื่องมือประเมินเครดิตออนไลน์เพื่อดูภาพรวมที่ชัดเจนขึ้น
การมีบ้านในฝัน ไม่ควรเป็นฝันร้ายทางการเงิน
เริ่มวางแผนการเงินที่ดีกว่า
อย่าให้ความฝันคอนโดกลายเป็นฝันร้าย ประเมินความสามารถจริงก่อน วางแผนก่อน แล้วค่อยซื้อ หากคุณต้องการความช่วยเหลือ สามารถเริ่มประเมินเครดิตฟรีได้เลย

ชาญชัย อั๊ลการีมี
ผู้พัฒนาระบบ CheckCredit
ผมพัฒนาแพลตฟอร์มประเมินเครดิตอัจฉริยะที่น่าเชื่อถือ และมีความแม่นยำสูงนี้ขึ้นมา เพื่อช่วยให้คุณรู้โอกาสการได้รับอนุมัติสินเชื่อล่วงหน้า แพลตฟอร์มประเมินเครดิตอัจฉริยะของคนไทย
บทความที่เกี่ยวข้อง
เมื่อการคำนวณวงเงินกู้ผิด กลายเป็นบทเรียนที่แพงที่สุดในชีวิต
เรื่องจริงของคุณอ๋อมและคนอื่นๆ ที่เคยคิดผิดเรื่องวงเงินกู้คอนโด เรียนรู้วิธีคำนวณวงเงินกู้ให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้ความฝันกลายเป็นฝันร้าย
5 ขั้นตอนเช็กเครดิตก่อนซื้อคอนโดให้ผ่านฉลุย
เรื่องจริงจากคนที่เคยผิดพลาดและประสบความสำเร็จ เรียนรู้ 5 ขั้นตอนการเช็กเครดิตก่อนซื้อคอนโดที่ใช้ได้จริง พร้อมเคสศึกษาและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
เช็กเครดิตก่อนซื้อคอนโดในกรุงเทพ - เรื่องจริงที่จะช่วยให้คุณไม่ผิดหวัง
เรื่องจริงของคนที่เคยผิดพลาดและประสบความสำเร็จในการซื้อคอนโดในกรุงเทพ เรียนรู้วิธีเช็กเครดิตก่อนซื้อคอนโดเพื่อไม่ให้ความฝันกลายเป็นฝันร้าย